วันนี้ขอนำเรื่องร้อน ๆ มา ประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งเตือนผู้ที่ยังใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP อยู่ เป็นบทความจากเว็บไซต์ www.beartai.com ที่แปลมาจากเว็บ www.pcworld.com และ www.infoworld.com ที่พูดถึงวันหมดอายุของระบบปฏิบัติการ Windows XP ในวันที่ 8 เมษายน 2557 นี้ โดยได้ให้คำแนะนำผู้ที่ยังคงใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Windows XP อยู่ให้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ซึ่งคำแนะนำเหล่านี้ให้ความปลอดภัยกับการใช้งานงานบนระบบปฏิบัติการ Windows XP ได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น รายละเอียดมีดังนี้ 1. เข้าใจความเสี่ยง (Understand the risks) เมื่อ Microsoft แจ้งว่าจะไม่มีการ support Windows XP แล้ว นั่นหมายความว่า พวก security patch หรือ hot-fix ที่ช่วยรักษาความปลอดภัยของระบบจะไม่มีออกมาอีกแล้ว แม้ว่าทาง Microsoft ค้นพบรูรั่วในระบบ แต่ก็จะไม่ทำการอุดรูรั่วนั้น ผู้ใช้จะต้องเจอกับรูรั่วของระบบไปตลอดกาล (หากยังคงใช้งาน Windows XP ไปเรื่อย ๆ) หรือ Zero Day Exploit ทำให้เหล่าแฮกเกอร์ทั้งหลายสามารถค้นพบรูรั่วของระบบ และเจาะระบบเข้ามาได้ง่ายขึ้น 2. เลือกใช้ software อย่างระมัดระวัง (Choose your software wisely) ถ้าหากคุณใช้ Internet Explorer (IE) เป็น Internet Browser หลัก น่าจะถึงเวลาที่จะต้องเลิกใช้แล้ว เพราะ IE ตัวล่าสุด คือ IE8 เป็น IE version สุดท้ายบน Wondows XP และมันจะหมดอายุตามระบบปฏิบัติการนี้ไปด้วย คุณควรจะเปลี่ยนไปใช้ browser อื่น เช่น Google Chrome (Chrome จะ support Windows XP จนถึงเดือนเมษายน 2558) หรือ Firefox (ยังไม่ประกาศแน่ชัดว่าจะหยุด support Windows XP เมื่อไหร่) ส่วน Antivirus ของ Microsoft เอง (Microsoft Security Essentials) จะ support Windows XP ถึงแค่วันที่ 14 กรกฎาคม 2558 ซึ่งจากการสอบถามบริษัททำ antivirus ส่วนใหญ่แล้วจะ support Windows XP อย่างต่ำจนถึงวันที่ 8 เมษายน 2558 แต่ก็มีหลายบริษัทที่ยังมี plan ที่จะ support ไปถึงปี 2559 ดังนั้นคุณควรเลือก antivirus ที่สามารถ support Windows XP ได้นาน ๆ แต่อย่างที่แจ้งไปในข้อ 1 ว่า Microsoft จะไม่ทำการแก้ไข หรือ อุดรูรั่วให้ระบบปฏิบัติการนี้แล้ว ดังนั้น antivirus ที่ติดตั้งจะช่วยป้องกันระบบได้แค่บางส่วนครับ บริการ e-Mail อย่าง Outlook Express ก็จะหมดอายุตาม Windows XP ไปด้วย แนะนำว่า ควรจะเปลี่ยนไปใช้โปรแกรม e-Mail ตัวอื่น ๆ หรือใช้พวก web mail และสุดท้าย Microsoft จะหยุด support Office 2003 ในวันที่ 8 เมษายน 2557 หากคุณยังใช้ Office 2003 อยู่ แนะนำให้ upgrade ไปใช้งาน Microsoft Office ตัวที่ใหม่กว่า 3. ลบโปรแกรมที่มีความเสี่ยงออก (Remove insecure software) โปรแกรมจำพวก Java plug-in ทั้งหลาย เป็นโปรแกรมที่นำความเสี่ยงมาสู่ระบบได้มากที่สุด ดังนั้นหากถ้าคุณไม่ได้ใช้งาน ขอแนะนำให้ลบมันออก หรือปิดการทำงานของ plug-in นั้น ๆ ส่วน plug-in อื่น ๆ ที่เป็นเป้าหมายของพวกแฮกเกอร์ เช่น Adobe Flash และ Adobe Reader ควรจะ update ให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ แต่ถ้าตัวไหนที่คุณไม่ใช้งาน แนะนำให้ลบออกไปได้เลย 4. ทำงานแบบไม่ต้องต่อ internet (Go offline) ในบางธุรกิจ ยังคงมีบางระบบงานที่ทำงานบน Windows XP หรือ interface กับ hardware บางรุ่น ถ้าเป็นไปได้ ไม่ควรใช้ระบบงานเหล่านี้ผ่าน internet ให้เลือกทำงานแบบ offline ไปจะดีกว่า 5. หลีกเลี่ยงการใช้ user admin account (Use a limited account day-to-day) ให้หลีกเลี่ยงการใช้งาน user administrator หรือ user สิทธิสูง ๆ ของ Windows XP เพราะหากระบบถูกโจมตีจากพวก malware การใช้งานผ่าน user administrator หรือ user สิทธิสูง ๆ จะส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อระบบมากขึ้น ทางที่ดีควรสร้าง user ขึ้นมาใหม่และทำการกำหนดสิทธิ์และจำกัดสิทธิ์ (limited account) และใช้ user นี้ทำงาน 6. ใช้งานระบบบน Virtual machines (Confine Windows XP to a virtual machine) การใช้งานแบบ Virtual machine เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ถ้าคิดจะใช้ software ที่ต้องทำงาน Windwos XP ในขณะที่ต้อง upgrade ระบบของ Windows ให้ใหม่ขึ้น แต่ถ้าคุณ upgrade ไปใช้ Windows 8 หรือ Windows 7 Home จะไม่มี Windows XP mode มาให้ ทาง Microsoft จะเลิก support Windows XP Mode และ Windows XP บน virtual machines ภายในวันที่ 8 เมษายน 2557 แต่อย่างไรก็ตาม การรัน Windows XP บน Virtual Machine ที่มี version ของระบบปฏิบัติการ Windows ใหม่กว่า จะปลอดภัยกว่า รัน Windows XP เป็นระบบปฏิบัติการหลักของเครื่อง 7. สุดท้ายแล้ว ยังไงก็ต้องเปลี่ยนอยู่ดี (Move On) ถ้าคุณยังไม่ต้องการจะซื้อเครื่องใหม่ คุณอาจจะต้องเปลี่ยนไปใช้งานระบบปฏิบัติการอื่น ๆ เช่น Linux Ubuntu หรือท้ายที่สุดคุณก็ต้องซื้อเครื่องใหม่ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 หรือ Windows 8 ไปเลย